Hola Prime

Direct Account
1. ขีดจำกัดการขาดทุนรายวัน ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันคือจำนวนเงินสูงสุดที่เทรดเดอร์สามารถขาดทุนได้ในหนึ่งวัน สำหรับบัญชี Hola Prime Account ที่ออกภายใต้โมเดล Direct ขีดจำกัดนี้ถูกกำหนดไว้ที่ 3% ของยอดปิดบัญชีวันก่อนหน้า กฎการเทรดกำหนดว่าการขาดทุนในวันใดวันหนึ่ง ซึ่งเป็นผลรวมของกำไรขาดทุนลอยตัวปัจจุบันและกำไรขาดทุนรวมจากการเทรดที่ปิดแล้ว ไม่สามารถเกินขีดจำกัดการขาดทุนรายวันสูงสุดได้ ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันจะถูกรีเซ็ตทุกวันเวลา 17:00 EST ตามเวลาของเซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่างเช่น: หากในตอนสิ้นวัน 2 ยอดปิดบัญชีของคุณคือ $110,000 ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันสำหรับวัน 3 จะเป็น $3,300 ($110,000 * 3%) นั่นหมายความว่ายอด equity ของคุณในวัน 3 ไม่สามารถต่ำกว่า $106,700 (110,000 - 3% ของ $110,000) ได้ หากยอด equity ของคุณต่ำกว่า $106,700 ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของวัน 3 บัญชีของคุณจะถูกปิด หากในระหว่างวัน คุณทำกำไรได้ $7,000 ขีดจำกัดการขาดทุนในวันนั้นจะอนุญาตให้ขาดทุนได้สูงสุดถึง ($110,000*3% + $7,000) ซึ่งจะเป็น $10,300 อีกตัวอย่างหนึ่ง: คุณมีบัญชีเทรดมูลค่า $110,000 ในระหว่างวัน คุณขาดทุนอย่างมากประมาณ $2,000 หลังจากนั้นคุณเริ่มเทรดอีกครั้ง หากในขณะใดก็ตาม การเทรดที่กำลังดำเนินอยู่ทำให้คุณขาดทุนลอยตัวเกิน $1,300 บัญชีของคุณจะละเมิดขีดจำกัดการขาดทุนรายวัน ดังนั้น หากการเทรดของคุณ (รวมถึงการขาดทุนลอยตัว) ทำให้คุณขาดทุนเกิน $3,300 ในวันเทรดใดวันหนึ่ง คุณจะถือว่าละเมิดกฎนี้2. Maximum Trailing Drawdown: Maximum Trailing Drawdown คือจำนวนที่ equity หรือยอดคงเหลือในบัญชีของคุณไม่สามารถต่ำกว่าได้ โดยกำหนดไว้ที่ 5% ของยอดคงเหลือเริ่มต้น 5% นี้จะตาม High Water Mark ไปจนกว่าผู้เทรดจะทำกำไรได้ 5% ในบัญชี เมื่อทำกำไรได้ 5% แล้ว max trailing จะล็อคที่ยอดคงเหลือเริ่มต้นและไม่ตามบัญชีอีกต่อไป ตัวอย่างที่ 1: หากคุณเริ่มต้นด้วยยอดคงเหลือในบัญชี $100,000 max trailing drawdown ของคุณจะอยู่ที่ 5% ($5,000) ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณไม่ควรมี equity ต่ำกว่า $95,000 ในเวลาใดก็ตามตัวอย่างที่ 2: ยอดเริ่มต้น = $100,000 หากยอดเงินในบัญชีของคุณถึง $102,000 (High Water Mark), การลดลงสูงสุดแบบตามหลัง (max trailing drawdown) ของคุณจะอยู่ที่ $97,000 ($102,000 ลบ 5% ของยอดเริ่มต้น: $5,000) ซึ่งหมายความว่ายอดเงินในบัญชีของคุณไม่ควรต่ำกว่า $97,000 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ equity หรือ balance ในทุกช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม สมมติว่าคุณปิดการเทรดด้วยการขาดทุน $1,000 และยอดเงินในบัญชีของคุณลดลงเหลือ $101,000 การลดลงสูงสุดแบบตามหลังของคุณจะยังคงอยู่ที่ $97,000 (High Water Mark: $102,000 ลบ 5% ของยอดเริ่มต้น: $5,000) ซึ่งหมายความว่ายอดเงินในบัญชีของคุณไม่ควรต่ำกว่า $97,000 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ equity หรือ balance ในทุกช่วงเวลาตัวอย่างที่ 3: ยอดเริ่มต้น = $100,000 หากยอดเงินในบัญชีของคุณเพิ่มขึ้นเกิน $105,000 นั่นคือมีการเติบโต 5% ในบัญชี การลดลงสูงสุดแบบ trailing ของคุณจะถูก锁定ที่ $100,000 ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณไม่ควรต่ำกว่า $100,000 ในส่วนของ equity หรือ balance ในทุกช่วงเวลา3. จำนวนวันทำการซื้อขายขั้นต่ำ ไม่มีการกำหนดจำนวนวันทำการซื้อขายขั้นต่ำ 2.4 การขาดทุนที่ใหญ่ที่สุดต้องไม่เกินกำไรที่ใหญ่ที่สุด: การขาดทุนที่ใหญ่ที่สุดที่บันทึกไว้ในบัญชีนี้ต้องไม่เกินกำไรที่ใหญ่ที่สุดที่ทำได้ในบัญชีเดียวกัน หากเงื่อนไขนี้ไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้ซื้อขายจะต้องทำการซื้อขายต่อไปจนกว่าการขาดทุนที่ใหญ่ที่สุดจะไม่เกินกำไรที่ใหญ่ที่สุดอีกต่อไป4. ข้อกำหนดความสม่ำเสมอ: คะแนนความสม่ำเสมอควรอยู่ที่ 15% หรือต่ำกว่า คะแนนความสม่ำเสมอคำนวณได้ดังนี้: คะแนนความสม่ำเสมอ = (วันที่ทำกำไรได้สูงสุด / กำไรรวมในบัญชีปัจจุบัน) × 100% กล่าวง่ายๆ คือ วันที่ทำกำไรได้สูงสุดไม่ควรเกิน 15% ของกำไรรวมที่ทำได้ในบัญชี หากคะแนนเกิน 15% ผู้เทรดต้องทำการเทรดต่อไปจนกว่าคะแนนนี้จะลดลงเหลือ 15% หรือต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น กำไรสูงสุดที่ทำได้ในหนึ่งวันคือ $5,000 และกำไรรวมที่ทำได้จนถึงปัจจุบันคือ $25,000 ดังนั้น คะแนนความสม่ำเสมอ = (5000/25000)*100% = 20% ในกรณีนี้ ผู้เทรดต้องทำการเทรดต่อไปและทำกำไรรวมให้ได้อย่างน้อย $33,333 (กำไรเพิ่มเติม $8,333) เพื่อให้คะแนนความสม่ำเสมอลดลงเหลือ 15%5. จำนวนวันทำกำไรขั้นต่ำ ภายในสิ้นทุกช่วงเวลาการจ่ายเงิน 14 วัน ผู้เทรดต้องทำกำไรในการเทรดได้อย่างน้อย 3 วัน วงจร 14 วันจะเริ่มต้นในวันที่เทรดครั้งแรกในบัญชี วันนั้นจะถือว่าเป็นวันทำกำไรก็ต่อเมื่อกำไรประจำวันเท่ากับหรือเกิน 0.3% ของยอดคงเหลือในบัญชี ช่วงเวลา 14 วันจะรีเซ็ตเมื่อสิ้นสุดแต่ละรอบสองสัปดาห์หรือเมื่อมีการประมวลผลรางวัล การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ภายในสิ้นทุกช่วงเวลา 14 วันจะส่งผลให้บัญชีถูกยกเลิก