简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
กำไรหายไม่รู้ตัว! ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์มักมองข้าม
บทคัดย่อ:ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของนักเทรด Forex อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap ค่าฝาก–ถอน หรือค่าธรรมเนียมแฝง การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนกลยุทธ์ เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด และป้องกันการสูญเสียกำไรโดยไม่จำเป็น นักเทรดมืออาชีพชนะตลาดไม่ใช่เพราะเดาทิศทางถูกเสมอ แต่เพราะบริหารต้นทุนได้อย่างชาญฉลาด

นักเทรดหลายคนตั้งเป้าทำกำไรให้ได้ทุกวัน แต่กลับลืมสิ่งสำคัญที่คอย “กัดกิน” พอร์ตอย่างเงียบ ๆ
นั่นคือ ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์ แอดเหยี่ยวเชื่อว่า ต่อให้กลยุทธ์ดีแค่ไหน ถ้าไม่เข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียม ก็เหมือนเทรดบนทางลาดเอียง วันนี้แอดจะพานักเทรดมาทำความเข้าใจว่า ค่าธรรมเนียมแต่ละโบรกเกอร์ มีอะไรบ้าง และมันส่งผลต่อแผนเทรดของคุณยังไง
ค่าธรรมเนียมแต่ละโบรกเกอร์คืออะไร?
คำว่า “ค่าธรรมเนียม” ในโลก Forex ไม่ได้มีแค่ค่าคอมฯ เท่านั้น แต่รวมถึง ทุกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการเปิด–ปิดออเดอร์ หรือถือออเดอร์ไว้ในระบบ
โดยทั่วไป ค่าธรรมเนียมหลัก ๆ ของโบรกเกอร์ Forex มีดังนี้
- สเปรด (Spread)
คือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) กับราคาขาย (Ask)
ยิ่งสเปรดกว้าง → ยิ่งเสียต้นทุนมากทุกครั้งที่เปิดออเดอร์
- ค่าคอมมิชชั่น (Commission)
บางโบรกเกอร์ตัดสเปรดออก แต่เก็บค่าคอมฯ แทน เช่น $7 ต่อการเทรด 1 ล็อต
เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการสเปรดแคบและคำนวณต้นทุนชัดเจน
- Swap (ค่าถือออเดอร์ข้ามคืน)
ถ้านักเทรดถือออเดอร์ข้ามวัน ระบบจะคิดดอกเบี้ยบวก–ลบตามทิศทางของคู่เงิน
บางครั้งอาจได้ “บวก” แต่บางครั้งอาจถูกหัก “ลบ”
- ค่าธรรมเนียมฝาก–ถอนเงิน (Transaction Fee)
โดยเฉพาะโบรกต่างประเทศที่ใช้ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ เช่น Skrill, Neteller, หรือ Crypto
- ค่าธรรมเนียมแฝง (Hidden Costs)
เช่น ค่าสลิปเพจ (Slippage), ค่าความเร็วในการส่งคำสั่ง (Execution Delay) หรือค่าบริการ VPS สำหรับเทรด EA
ทำไม “ค่าธรรมเนียม” ถึงสำคัญกว่าที่คิด
นักเทรดหลายคนมองว่า “ต่างกันไม่กี่จุด” คงไม่เป็นไร แต่ในระยะยาว มันสามารถกลืนกำไรไปได้หลายสิบเปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
ตัวอย่างง่าย ๆ
ถ้าเทรดวันละ 10 ออเดอร์ สเปรดเฉลี่ย 2 จุด
เทรดเดือนละ 200 ออเดอร์ เท่ากับเสียไปกว่า 400 จุดต่อเดือน
ซึ่งอาจหมายถึงกำไรหายไปหลายร้อยดอลลาร์โดยไม่รู้ตัว
โบรกเกอร์แต่ละประเภทมีค่าธรรมเนียมต่างกันยังไง
| ประเภทโบรกเกอร์ | ลักษณะการคิดค่าธรรมเนียม | เหมาะกับใคร |
| Dealing Desk (Market Maker) | สเปรดคงที่ ไม่มีค่าคอมฯ | มือใหม่ เน้นความเสถียร |
| ECN (Electronic Communication Network) | สเปรดลอยตัว + ค่าคอมฯ | นักเทรดจริงจัง ต้องการราคาตลาดจริง |
| STP (Straight Through Processing) | สเปรดต่ำกว่าทั่วไป บางรายมีค่าคอมฯ | เทรดเดอร์ที่เน้นความเร็วและต้นทุนต่ำ |
เทคนิคจัดการค่าธรรมเนียมให้ไม่กินกำไร
- 1. เลือกโบรกให้เหมาะกับสไตล์เทรด
- ถ้าเป็นสาย Scalping → เลือก ECN สเปรดต่ำ
- ถ้าเทรดระยะยาว → ดู Swap ให้ดี อย่าให้โดนหักต่อเนื่อง
- 2. เช็กค่า Swap ก่อนถือออเดอร์ข้ามคืน
เว็บไซต์โบรกส่วนใหญ่มีตารางแสดง Swap รายคู่เงิน
- 3. เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมทุกช่องทางฝาก–ถอน
โดยเฉพาะถ้าเทรดเป็นประจำในต่างประเทศ
- 4. ใช้บัญชีทดลอง (Demo) ทดสอบต้นทุนจริง
ก่อนเปิดบัญชีจริง ลองเทรดดูว่าเปิด–ปิดจริงแล้วเสียเท่าไร
สรุป
- “ค่าธรรมเนียมแต่ละโบรกเกอร์” คือปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อผลกำไร
- อย่ามองแค่สเปรด ต้องดูค่าคอมฯ และค่าอื่น ๆ ร่วมด้วย
- เลือกโบรกที่เหมาะกับสไตล์เทรดของคุณมากกว่าแค่ “ราคาถูกที่สุด”
- นักเทรดมือโปรไม่ได้ชนะเพราะเทรดแม่นที่สุด แต่เพราะ “บริหารต้นทุนได้ดีที่สุด”
ในตลาด Forex ทุกจุดคือค่าใช้จ่าย ถ้าคุณเข้าใจต้นทุนตั้งแต่แรก คุณก็มีโอกาสรักษากำไรได้มากกว่าคนส่วนใหญ่
แล้วพบกันในบทความหน้า แอดเหยี่ยวจะพาเจาะลึก“ค่า Swap คืออะไร และใช้ยังไงให้กลายเป็นจุดทำกำไรแทนที่จะเป็นต้นทุน” อย่าพลาดครับ
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กขายเค้กสู่เศรษฐีฟอเร็กซ์ร้อยล้าน! เรื่องจริงที่สอนว่าความโลภมีราคา
Sandile Shezi เคยถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของแอฟริกาใต้ หลังสร้างชื่อจากการเทรด Forex ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ไร้ข้อวิพากษ์ เส้นทางชีวิตสะท้อนทั้งแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นศูนย์ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินของผู้อื่น เรื่องราวของ Shezi เตือนนักลงทุนว่าการเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความรอบคอบ ไม่ให้ความโลภและภาพลวงนำทาง

จากปี 2009 ถึงวันนี้! เส้นทางนักลงทุนบิตคอยน์ที่พลิกโลกการเงินทั้งใบ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุน Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มนักพัฒนาที่เชื่อในอุดมการณ์เงินดิจิทัล สู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินระดับโลก ตลาด Bitcoin สอนบทเรียนสำคัญว่า การอยู่รอดในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ขึ้นกับการเดาเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความผันผวน การลงทุนด้วยศรัทธาคู่กับความรู้ และการควบคุมอารมณ์ นักลงทุนยุคใหม่ยังใช้เครื่องมือ AI และข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนทั้งมูลค่าเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
IC Markets Global
JustMarkets
GTCFX
ATFX
Exness
STARTRADER
IC Markets Global
JustMarkets
GTCFX
ATFX
Exness
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
IC Markets Global
JustMarkets
GTCFX
ATFX
Exness
STARTRADER
IC Markets Global
JustMarkets
GTCFX
ATFX
Exness

