简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ


เหตุการณ์และตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม
วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน 2568
- USD ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.) คาดการณ์ 0.2% ครั้งก่อน 0.1%
- USD ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.) คาดการณ์ -0.6% ครั้งก่อน 0.1%
วันพุธที่ 18 มิถุนายน 2568
- USD จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ครั้งก่อน 248K
- USD สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ ครั้งก่อน -3.644M
วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2568
- USD วันหยุดสหรัฐอเมริกา - Juneteenth
- USD การคาดการณ์เศรษฐกิจของคณะกรรมการนโยบายธนาคารกลางแห่งสหรัฐ
- USD แถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ
- USD การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย คาดการณ์ 4.50% ครั้งก่อน 4.50%
- USD การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐ
- USD จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ครั้งก่อน 248K
บทวิเคราะห์
- สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ และกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
- ควรรอลุ้น ผลการประชุม FOMC ของเฟด (จับตา Dot Plot ใหม่) พร้อมติดตาม สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
- เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทยอยออกมาดีกว่าคาด และเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ นอกจากนี้ ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่ร้อนแรงในช่วงนี้อาจช่วยหนุนเงินดอลลาร์บ้าง ในส่วนของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในลักษณะ Sideways Up โดยเฉพาะในกรณีที่ราคาทองคำพลิกกลับมาย่อตัวลง หากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางทยอยคลี่คลายลง แต่หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น “เร็ว แรง” ในระยะสั้น ก็อาจกดดันเงินบาทได้ จากการเร่งซื้อทองคำแบบ FOMO ของผู้เล่นในตลาด ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็จะเป็นปัจจัยที่คอยกดดันเงินบาทได้เช่นกัน เช่นเดียวกับแรงขายสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้
- มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้32.10-33.00 บาท/ดอลลาร์
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
- ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ ผลการประชุม FOMC ของเฟด เดือนมิถุนายน ที่จะรับรู้ในช่วงราว 01.00 น. เช้าวันที่ 19 มิถุนายน นี้ ตามเวลาประเทศไทย โดยเรามองว่า FOMC จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ตามเดิม จนกว่าจะมั่นใจในแนวโน้มเงินเฟ้อ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของทั้งนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ อย่าง ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ เราขอแนะนำว่า ควรจับตาการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากล่าสุด บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า FOMC อาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ และอีกราว 2-3 ครั้ง ในปีหน้า ซึ่งดูใกล้เคียงกับ Dot Plot เดือนมีนาคม ทำให้ หาก Dot Plot ใหม่ มีการเปลี่ยนแปลง เช่น บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่มองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้พอสมควร นอกเหนือจากประเด็นในข้างต้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามพัฒนาการของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า และปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่าง การโจมตีระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่จะยิ่งทวีความร้อนแรงของปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนพฤษภาคม และดัชนีภาคการผลิตโดยเฟด สาขานิวยอร์ก (Empire Manufacturing Index)
- ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยเรามองว่า BOE อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25% ก่อนที่จะกลับมาเดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน (ผู้เล่นในตลาดให้โอกาส 82% ที่ BOE จะกลับมาลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนสิงหาคม) ซึ่งมุมมองของเราและบรรดาผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของ BOE อาจปรับเปลี่ยนไปได้ ตามรายงาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง อัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดค้าปลีก ในเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ ECB โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า ECB มีโอกาสราว 96% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในปีนี้
- ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาทิ ยอดค้าปลีกและยอดผลผลิตอุตสาหกรรม ในเดือนพฤษภาคม ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยเราประเมินว่า BOJ อาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% จนกว่าความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะลดลง เพื่อให้ BOJ สามารถประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่น และยอดการค้า (Exports & Imports) ในเดือนพฤษภาคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของ BOJ นอกเหนือจากผลการประชุม BOJ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารกลางไต้หวัน (CBC) ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า BI และ CBC อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.50% และ 2.00% ตามลำดับ ขณะที่ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) อาจลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 5.25%
- ฝั่งไทย – เราประเมินว่า ยอดการส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม อาจยังสามารถขยายตัวได้ดี ตามอานิสงส์ของการเร่งนำเข้าสินค้าจากบรรดาประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจดำเนินไปจนเข้าใกล้ช่วงครบกำหนดการชะลอเรียกเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้ของสหรัฐฯ ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ ยอดการนำเข้าก็อาจยังขยายตัวได้ในอัตราที่สูงอยู่ ทำให้โดยรวมดุลการค้าของไทยอาจยังคงขาดดุลต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุลราว -3.3 พันล้านดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ไม่ตามค่า CPI = พอร์ตสั่น! ทำไมนักเทรดฟอเร็กซ์ ต้องจับตาทุกเดือน
ค่า CPI (Consumer Price Index) คือตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญในตลาด Forex ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ เมื่อตัวเลข CPI สูงกว่าคาด ธนาคารกลางมักปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินแข็ง และหากต่ำกว่าคาด ค่าเงินมักอ่อน นักเทรดจึงใช้ข้อมูล CPI และ Core CPI เพื่อวางแผนกลยุทธ์ ทั้งระยะสั้นและยาว ผู้ที่เข้าใจการตีความตัวเลขนี้จะสามารถใช้ข่าวเศรษฐกิจสร้างโอกาสทำกำไร และบริหารความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น

อยากเทรดให้รอด? นี่คือ 3 กลยุทธ์ที่นักเทรดระดับโลกยืนยันว่า “เวิร์กจริง”
การมีกลยุทธ์เทรด Forex ที่ชัดเจนคือกุญแจสำคัญของนักเทรดมืออาชีพ เพราะตลาดไม่ได้วัดกันที่ใครทำนายแม่น แต่ที่ใครบริหารความเสี่ยงและวางแผนได้ดีกว่า บทความนี้นำเสนอ 3 กลยุทธ์ยอดนิยมที่สามารถปรับใช้ได้ทันที: เทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เน้นเข้าออเดอร์ตามทิศทางตลาด, เทรดตามข่าว (News Trading) ใช้ประโยชน์จากความผันผวนช่วงประกาศเศรษฐกิจ, และเทรดระยะสั้น (Scalping/Day Trading) เก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวสั้น ๆ สุดท้าย กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ “กลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวคุณ” พร้อมวินัยและการบริหารพอร์ตที่มั่นคง

เทรดเดอร์ห้ามพลาด! วิกฤตชัตดาวน์สหรัฐฯ จ่อจบ ดอลลาร์ ทองคำเตรียมสวิงแรง
หลังชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อ วุฒิสมาชิกสายกลางเดโมแครตสนับสนุนร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อเปิดหน่วยงานรัฐบาลและจ่ายเงินเดือนย้อนหลังให้พนักงาน ตลาดหุ้นตอบรับทันที ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดขึ้น ดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า ขณะที่ทองคำอาจถูกเทขาย นักลงทุน Forex ควรจับตาความผันผวนของค่าเงินและนโยบาย FED เนื่องจากความมั่นใจของตลาดเป็นปัจจัยหลักในการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
FOREX.com
EC Markets
D prime
octa
JustMarkets
HFM
FOREX.com
EC Markets
D prime
octa
JustMarkets
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
FOREX.com
EC Markets
D prime
octa
JustMarkets
HFM
FOREX.com
EC Markets
D prime
octa
JustMarkets

