简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
วิธีบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex
บทคัดย่อ:วิธีบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex

ไม่มีการลงทุนไหนที่ไม่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะตลาดการลงทุนที่ใหญ่ และผันผวนสุด ๆ อย่าง Forex ซึ่งการเทรด Forex สามารถทำกำไรได้มหาศาลก็จริง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน จนทำเอาเทรดเดอร์หลายคนล้มหายตายจากในเวลาไม่นาน และส่วนหนึ่งเกิดจากการละเลยการจัดการความเสี่ยง แต่ถ้าเราเข้าใจและจัดการบริหารความความเสี่ยงในการเทรด ก็จะช่วยให้สามารถลดการขาดทุนในการเทรด Forex ได้
1. เรียนรู้หลักการทำงานของตลาด Forex
ก่อนที่จะไปจัดการเรื่องไหน หากจะอยู่รอดในตลาดได้อย่างมั่นคง เทรดเดอร์จะต้องทำความเข้าใจว่าตลาดมีหลักการทำงานอย่างไร จะใช้กลยุทธ์ใดในการเทรด?ต้องการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว?และจะใช้เครื่องมือ หรืออินดิเคเตอร์ใดเป็นตัวช่วยในการเทรด?สิ่งสำคัญคือ คุณต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ Forex ขั้นพื้นฐาน ให้มั่นใจก่อน โดยการทำความเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของตลาดการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถจัดการความเสี่ยงในการเทรดได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งติดตามข่าวสารหรือทิศทางทางเศรษฐกิจควบคู้ไปด้วย เพราะข่าวก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ส่งผลกระทบต่อตลาด Forex
2. การควบคุมการสูญเสีย
การที่เราได้เรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราควรจะ Cut loss หรือ ขายตัดขาดทุน หรือวาง Stop Loss ทุกครั้งที่เราเทรด เป็นวิธีจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเทรดเดอร์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะมือใหม่ มักอดทนต่อการถูกลาก หรือ อดทนต่อการขาดทุนได้ เพราะมีความหวังในใจว่า ราคามันจะดีดขึ้น หรือ ลงมารับ มีบางรายถึงกับยอมเปลี่ยนจุด หรือลาก Stop Loss ให้สูงขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำแต่พอเวลาที่ได้กำไร กลับรีบออกจากออเดอร์ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงจุด Take Profit ที่ได้ตั้งเอาไว้ ทั้งนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยาการเทรดด้วย
3. เลเวอเรจเป็นเรื่องสำคัญ
เลเวอเรจ อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำกำไรในตลาดที่มีความเสี่ยง แม้จะฝากเงินเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยก็ยังทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียที่เทรดเดอร์ควรระวังคือ ปริมาณในการขาดทุน ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องมีกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อปรับใช้ให้เหมาะกับสภาวะของตลาดที่แตกต่างกัน เนื่องจากมันทำให้คุณมีอำนาจในการซื้อขาย จึงทำให้คุณเผลอที่จะเข้าออเดอร์ซื้อขายมากตามไปด้วย สมมุติว่า คุณควรจะเทรดแค่ 5 ออเดอร์ แต่เมื่อได้ค่าเลเวอเรจสูง จะทำให้คุณเพิ่มออเดอร์เข้าไปได้อีก เป็น 10 ออเดอร์ และเมื่อคุณใช้อารมณ์ในการเทรดด้วย การเสี่ยงที่จะทำให้คุณล้างพอร์ตมีมากขึ้นด้วย
4. คำนวณอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน
วิธีการสำคัญในการจัดการความเสี่ยงในการขาดทุน คือ การตั้งอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน หรือ Risk-reward ratio ที่เหมาะสม มันเป็นเรื่องธรรมดาหากท่านจะเทรดขาดทุนบ้างบางครั้ง เพราะไม่มีนักลงทุนคนใดไม่เคยขาดทุนจริงไหมล่ะครับ? แต่คำถามสำคัญที่ท่านควรถามตัวเองก็คือ ท่านจะขาดทุนได้มากเท่าไหร่? และการลงทุนนั้นมันให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากแค่ไหนในระยะยาว?ฉะนั้น การคำนวณ Risk-reward ratio ก็จะมีประโยชน์สำหรับการพิจารณาความคุ้มค่าจากการลงทุนนั่นเอง
5. ลดความเสี่ยงด้วยการเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต
การเทรด Forex กับโบรกเกอร์เถื่อน คือหนทางแห่งความเสี่ยง เพราะโบรกเกอร์เถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาต เขาอาจไม่ได้เอาเงินเทรดเดอร์เข้าตลาด Forex จริง ๆ พวกเขาสามารถแต่งกราฟปลอม ทำทุกวิธีทางให้คุณขาดทุน แล้วเชิดเงินหนีไป ถ้าอยากลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้ มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่ถูกต้อง เพราะใบอนุญาตจะการันตีความปลอดภัยในการลงทุนของคุณ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
ก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม อยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง !!! ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี ! https://www.wikifx.com/th/download.html

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Divergence ไม่ใช่แค่สัญญาณกลับตัว มันคือกระจกสะท้อนจิตใจนักเทรด!
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Divergence Forex ในฐานะสัญญาณที่สะท้อนทั้งการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาและจิตวิทยาตลาด Divergence เกิดเมื่อทิศทางของราคาไม่สอดคล้องกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI หรือ MACD ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของเทรนด์ การเข้าใจและใช้ Divergence ควบคู่กับแนวรับ–แนวต้านและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และเทรดอย่างมีสติในตลาดที่ผันผวน

เทรดมานานแต่ไม่โตสักที? คุณอาจพลาดสิ่งง่าย ๆ ที่เทรดเดอร์เก่ง ๆ ทำทุกวัน!
บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “สมุดบันทึกการเทรด (Trading Journal)” ในการพัฒนานักเทรดจากมือสมัครเล่นสู่มืออาชีพ โดยการจดบันทึกช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจพฤติกรรมของตนเอง เห็นข้อผิดพลาดและจุดแข็งของกลยุทธ์ ปรับแนวทางให้มีระบบมากขึ้น และสร้างวินัยในการเทรดอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือเครื่องมือ แต่ขึ้นอยู่กับ “การรู้จักเรียนรู้จากการเทรดของตัวเอง”

CPI ไม่ออก! ทำเนียบขาวเผยระบบพังเพราะชัตดาวน์ กระทบทั้งเฟดและตลาดฟอเร็กซ์
สหรัฐฯ อาจไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่าง CPI และการจ้างงานเดือนตุลาคมได้ หลังรัฐบาลชัตดาวน์ ส่งผลให้ตลาด Forex เผชิญความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากเฟดต้องตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลรองรับ ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์จึงอาจเพิ่มขึ้นจากการเก็งกำไรและอารมณ์ตลาด นักเทรดควรรอบคอบ ใช้การบริหารความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์ในภาวะข้อมูลไม่ชัดเจน

ไม่ตามค่า CPI = พอร์ตสั่น! ทำไมนักเทรดฟอเร็กซ์ ต้องจับตาทุกเดือน
ค่า CPI (Consumer Price Index) คือตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญในตลาด Forex ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ เมื่อตัวเลข CPI สูงกว่าคาด ธนาคารกลางมักปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินแข็ง และหากต่ำกว่าคาด ค่าเงินมักอ่อน นักเทรดจึงใช้ข้อมูล CPI และ Core CPI เพื่อวางแผนกลยุทธ์ ทั้งระยะสั้นและยาว ผู้ที่เข้าใจการตีความตัวเลขนี้จะสามารถใช้ข่าวเศรษฐกิจสร้างโอกาสทำกำไร และบริหารความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
Vantage
Plus500
IC Markets Global
XM
FOREX.com
GTCFX
Vantage
Plus500
IC Markets Global
XM
FOREX.com
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
Vantage
Plus500
IC Markets Global
XM
FOREX.com
GTCFX
Vantage
Plus500
IC Markets Global
XM
FOREX.com
