简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเจ๊งจากการลงทุนในฟอเร็กซ์ ?
บทคัดย่อ:ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเจ๊งจากการลงทุนในฟอเร็กซ์ ?

วันนี้แอดเหยี่ยวไปเจอกระทู้หนึ่งจากใน Pantip โดยเจ้าของกระทู้ได้มาตั้งคำถามว่า “ทำไมคนส่วนใหญ่ขาดทุนเจ๊ง Forex ครับ ?” ซึ่งแอดคิดว่าน่าสนใจดี เพราะแอดเชื่อว่าเทรดเดอร์ทุกคนต้องเจ๊ง ต้องพอร์ตแตกกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ หรือเทรดเดอร์มือใหม่

โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า ถามเพื่อเป็นความรู้นะครับ ตอนสมัยผมแทรดใหม่ ๆ ไร้ความรู้ ไร้ประสบการณ์ หนังสือสอนมีประโยชน์จริงไม่รู้ต้องเล่มไหนมีคนบอกว่าไม่ต้องหาอ่านเพราะใช้จริงไม่ได้...? ผลของผม คือ ตอนนั้นผมมองว่า ยังไงก็ไม่ได้หรอก มีแต่เสียกับเสีย เลย เลิกไป สนใจ คริปโต แทนแต่ก็เลิกไปอีก หลายคนบอกแทรดยังไงก็มีแต่จะขาดทุน ขุดแล้วสู้เก็บดีกว่าเยอะ อันนี้ผมอยากถามความเห็นหน่อยครับ โดยก็มีเทรดเดอร์ท่านอื่นเขามาคอมเมนต์ดังต่อไปนี้
คอมเมนต์ที่ 1
เพราะธรรมดาโลกครับ ในช่วงเวลานึง ๆ ในตลาดคน 80% ไม่กำไรครับ ก็เหมือนกับธุรกิจครับที่ราว ๆ 80% จะไม่รอดในระยะยาว คำถามคือจะอยู่ต่อพัฒนาให้ไปอยู่ใน 20% ที่เหลือยังไง หากระบุเหตุผลผมเป็นข้อ ๆ
1) ไม่มี Risk management บริหารความเสี่ยงไม่เป็น ต้องรู้ก่อนว่าจุด Cut อยู่ตรงไหน จะแบ่งเงินไปลงเท่าไหร่ risk-reward เท่าไหร่
2) ไม่มีของ ไม่มี edge ของตัวเอง จะไปชนะคนอื่นได้คุณต้องหาจุดแข็งมาสู้กับเขาก่อน ไปพัฒนาระบบของตัวเองมาสู้ก่อน
3) อยู่ผิดที่ เช่นมาเทรด FX แต่จริงๆวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นเก่ง แบบนี้ควรไปเป็น VI
4) อยู่ผิดระบบ เก่งเทรดตลาด Mean reversion ตลาด Range แต่พอตลาดเปลี่ยนเป็น Trending คุณต้องเป็น Trend Follower แต่ไม่ยอมปรับตัว
5) Leverage เกิน อันนี้ FX ตัวดีเลยเพราะ spot มันแกว่งน้อยเทียบกับ asset อื่นๆ เลยต้องเร่งเครื่องกัน ปัญหาคือพอเร่งเยอะเกินแล้วผิดทางก็พอร์ตแตกกันไป 555
6) จิตใจไม่นิ่ง เรื่อง psychology จริงๆสำคัญที่สุด จิตคุณแกว่งมีความกังวลในปัญหาชีวิตอื่นๆมันก็ส่งผลกลับมาที่การตัดสินใจนะ ไปจัดการปัญหาชีวิตหัวโล่งๆก่อนดีที่สุด
7) ego สูงเกิน มองโลก optimistic เกิน อันนี้สวนทางกับทัศนคติในการค้าขาย เทรดเดอร์ ego สูงไม่ได้และต้องพยายามมองโลกตามความเป็นจริงเสมอ ต้องคั้งคำถามตัวเองเสมอ แต่คนทำการค้าต้องมองโลกบวก วิ่งเต้นหาลูกค้า คนเป็นเทรดเดอร์ควรมองโลกจากมุมความเสี่ยง วันนี้มันจะเล่นกูยังไง 5555
ผมก็เจ๊งมาเยอะแหละ เอาตัวรอดไป สุดท้ายไม่ว่าตลาดไหนรายย่อยก็ต้องไปเจอกับคนที่เขาเล่นเกมส์นี้จนเก่งสุดๆอยู่แล้ว พวก 20% ที่เหลือเขาจ้องจะเล่นคุณอ่ะ
คอมเมนต์ที่ 2
ไม่ใช่แค่ Forex ครับ การลงทุนทุกอย่างแหละครับ จะหุ้นเมกา หุ้นจีน กองทุนอาร์ค และ อื่นๆ มันเป็นขาขึ้นทั้งหมดในช่วงหลังโควิดระบาดใหม่สักพักเพราะ
1. คิดว่ามันดี จะ 3เดือน 6เดือน 12เดือน ยาวๆก็ยังกำไรมากขึ้นเรื่อยๆอยู่เลย
2. พอกำไรแล้วก็คิดว่าตัวเองแน่จริง ก็จะเหลิง เชื่อไปแล้วว่ามันกำไรแน่ๆ
3. ผ่านไป 15เดือน 18เดือน ก็ยังบวกอีก ใครลงทุนแบบไม่ระวังก็เติมเงิน กู้เงิน เงินเก็บมาเติมไป
4. พอเข้า 21เดือน 24เดือน ตลาดเป็นขาลงชัดเจน แน่นอนว่าคนเหล่านั้นกัดฟัน คิดว่าเดี๋ยวมันก็กลับมา ละทิ้งความจริงไม่ได้
เมื่อเช่นนั้น ก็รอวันพังกันไป กำไรที่ได้มาก็สลายหายไปกับการใช้ชีวิตไป ไม่ได้เหลือไว้ต่อทุน ลงทุนแบบการพนัน ก็อย่างที่เห็นกัน คนเหล่านั้นหายไปแล้ว เพราะเขาไม่ใช่ผู้ลงทุนที่เข้าใจในสิ่งที่ลงทุน
คอมเมนต์ที่ 3
ส่วนใหญ่รู้หลักการ รู้ความเสี่ยง รู้วิธีบริหารความเสี่ยง รู้วิธีทำกำไร รู้จิตวิทยาการเทรด ... แต่เกือบทั้งหมด ขาดวินัย นี่แหละสาเหตุการเจ๊ง แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่เข้ามาด้วย mindset ที่ไม่ถูกต้อง เข้ามาแบบนักพนัน หวังรวยเร็วโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี สุดท้ายพอร์ตแตกสบายตัวไป
คอมเมนต์ที่ 4
Trade Forex บางวันได้ 200 เหรียญ บางวันได้มา 140 เหรียญ แต่ก็เสียไป 150 เหรียญ สรุป ต้อง เทรดดีๆ ใจต้องนิ่ง มีสมาธิ อย่าอารมณ์เสีย และต้องอดทนมากๆ (อย่ารีบปิดออร์เดอร์) Leverage 1:888 ใช้ Broker ที่ Spread ต่ำมากๆ และ ทุนต้องสูงมากๆ (เกิน 50000 บาท แต่ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่) เปิดออร์เดอรที่วันละไม่เกิน 5 ออร์เดอร์ ในเวลาเดียวกัน แต่ละออรเดอร์ มีขนาดล็อตไม่เกิน 0.1
เคยเทรดเสียไปทั้งหมด เมื่อ 3 ปีก่อน (ตอนหัดเทรด ช่วงตกงาน ตอนนั้นยังโง่อยู่ น่าจะสูญเงินไปทั้งหมด ประมาณ กว่าหมื่นบาท) หลักหมื่นต้น ๆ ช่วงที่ผ่านมาประมาณ 1 เดือน ค่อนข้างมึนตึงกับทางบ้าน เลยมาเทรดอีกครั้ง เป็นงานขำ ๆ (แต่โคตรเครียด เพราะ กลัวเสียเงิน) ลงไปทั้งหมด ประมาณ กว่า 60000 บาท (ตอนนี้ ใน port ประมาณ กว่า 1600 USD หักที่ขาดทุนไปแล้ว ก็น่าจะเกือบ 1.8 k-USD หรือ อาจจะถึง 1.9) ได้กำไรประมาณ 1000 USD (แต่ยังมีออร์เดอร์ที่เปิดทิ้งไว้ และ ติดลบอยู่ประมาร เกือบ 400 USD)
สรุป หักไปหักมา ก็น่าจะได้กำไรประมาณ 600/1800 หรือประมาณ 600/1900 ก็น่าจะประมาณ คร่าว ๆ 25% ได้นะครับ แต่ ค่อนข้างเครียด และ อดหลับ อดนอน (ไม่รู้ว่า เงินที่ได้มานั้น มันคุ่มค่ากับสุขภาพที่เสียไปไหม?) เอาเป็นว่าหากรู้จักการเทรดดีๆ มีสติ ใจเย็น ก็พอจะทำกำไรได้ ขอให้โชคดี กับการเทรด Forex
คอมเมนต์ที่ 5
Forex เป็นการเดาหน้ากราฟที่เชื่อถือ indicator ไม่ได้เลย และเพราะมีข่าว และมีรายใหญ่ระดับโลก เขาอยากเก็บตรงไหนเขาก็เก็บไม่มีใครไปเดาใจเขาออก รายใหญ่เข้ามาเก็บ คนเปิด sell เดาว่าลงแน่ก็จะโดนลากขึ้น เวลาเขาขายก็เช่นกัน buy อยู่ก็จะโดนลากลง เชื่อข่าวก็ไม่ได้ ซึ่งข่าวมี 3 กรณี
1. หน้ากราฟ ทำพฤติกรรม ดันทองหรือหนุนทองตามข่าว แล้วกลับที่เดิมทันที
2. ทำตามข่าวแล้วลากไปเรื่อยๆไปจบอีกหลายวัน
3. ข่าวออกกราฟนิ่งๆ ไม่สะดุ้งสะเทือน ใครเปิด order จนต้องถือข้ามวัน แล้วกราฟก็จะวิ่งไปอีกทาง ก็ต้อง sl หรือ stop loss
เราเทรดทุกวันมาจะปีนึงแล้ว จะบอกว่า การขาดทุนน้อยที่สุดคือการตั้ง SL ทุกครั้ง หรือเลิกเล่นตอนนี้เลย
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก : https://pantip.com/topic/41669231
ก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดเหยี่ยวอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! ที่สำคัญอย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Divergence ไม่ใช่แค่สัญญาณกลับตัว มันคือกระจกสะท้อนจิตใจนักเทรด!
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Divergence Forex ในฐานะสัญญาณที่สะท้อนทั้งการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาและจิตวิทยาตลาด Divergence เกิดเมื่อทิศทางของราคาไม่สอดคล้องกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI หรือ MACD ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของเทรนด์ การเข้าใจและใช้ Divergence ควบคู่กับแนวรับ–แนวต้านและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และเทรดอย่างมีสติในตลาดที่ผันผวน

เทรดมานานแต่ไม่โตสักที? คุณอาจพลาดสิ่งง่าย ๆ ที่เทรดเดอร์เก่ง ๆ ทำทุกวัน!
บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “สมุดบันทึกการเทรด (Trading Journal)” ในการพัฒนานักเทรดจากมือสมัครเล่นสู่มืออาชีพ โดยการจดบันทึกช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจพฤติกรรมของตนเอง เห็นข้อผิดพลาดและจุดแข็งของกลยุทธ์ ปรับแนวทางให้มีระบบมากขึ้น และสร้างวินัยในการเทรดอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือเครื่องมือ แต่ขึ้นอยู่กับ “การรู้จักเรียนรู้จากการเทรดของตัวเอง”

CPI ไม่ออก! ทำเนียบขาวเผยระบบพังเพราะชัตดาวน์ กระทบทั้งเฟดและตลาดฟอเร็กซ์
สหรัฐฯ อาจไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่าง CPI และการจ้างงานเดือนตุลาคมได้ หลังรัฐบาลชัตดาวน์ ส่งผลให้ตลาด Forex เผชิญความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากเฟดต้องตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลรองรับ ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์จึงอาจเพิ่มขึ้นจากการเก็งกำไรและอารมณ์ตลาด นักเทรดควรรอบคอบ ใช้การบริหารความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์ในภาวะข้อมูลไม่ชัดเจน

ไม่ตามค่า CPI = พอร์ตสั่น! ทำไมนักเทรดฟอเร็กซ์ ต้องจับตาทุกเดือน
ค่า CPI (Consumer Price Index) คือตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญในตลาด Forex ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ เมื่อตัวเลข CPI สูงกว่าคาด ธนาคารกลางมักปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินแข็ง และหากต่ำกว่าคาด ค่าเงินมักอ่อน นักเทรดจึงใช้ข้อมูล CPI และ Core CPI เพื่อวางแผนกลยุทธ์ ทั้งระยะสั้นและยาว ผู้ที่เข้าใจการตีความตัวเลขนี้จะสามารถใช้ข่าวเศรษฐกิจสร้างโอกาสทำกำไร และบริหารความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
WikiFX โบรกเกอร์
Exness
GTCFX
Plus500
XM
FXCM
AVATRADE
Exness
GTCFX
Plus500
XM
FXCM
AVATRADE
WikiFX โบรกเกอร์
Exness
GTCFX
Plus500
XM
FXCM
AVATRADE
Exness
GTCFX
Plus500
XM
FXCM
AVATRADE
