简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ประเภทข่าวในตลาด Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้จัก
บทคัดย่อ:เชื่อว่าเทรดเดอร์หลาย ๆ ท่านในที่นี้ คงกำลังติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาด Forex กันอยู่ใช่ไหมครับ แต่ข่าวในตลาดต่อวันนั้นมีมากมายอย่างมหาศาล เกินกว่าที่เราจะสามารถกลั่นกรองและทำความเข้าใจได้ ซึ่งบางข่าวก็เป็นข่าวสำคัญ บางข่าวก็เป็นข่าวทั่วไป ดังนั้น การคัดกรองและแยกประเภทข่าวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้นในบทความนี้ เราจะพาเทรดเดอร์ทุกท่านไปดูกันว่า 8 ประเภทข่าวในตลาด Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้จัก มีอะไรบ้าง

เชื่อว่าเทรดเดอร์หลาย ๆ ท่านในที่นี้ คงกำลังติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาด Forex กันอยู่ใช่ไหมครับ แต่ข่าวในตลาดต่อวันนั้นมีมากมายอย่างมหาศาล เกินกว่าที่เราจะสามารถกลั่นกรองและทำความเข้าใจได้ ซึ่งบางข่าวก็เป็นข่าวสำคัญ บางข่าวก็เป็นข่าวทั่วไป ดังนั้น การคัดกรองและแยกประเภทข่าวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้นในบทความนี้ เราจะพาเทรดเดอร์ทุกท่านไปดูกันว่า 8 ประเภทข่าวในตลาด Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้จัก มีอะไรบ้าง
ประเภทข่าวในตลาด Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้จัก
1. ข่าวการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
FED หรือ Federal Reserve คือหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ดูแลนโยบายการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา โดย FED จะเป็นผู้ออกนโยบายหลัก ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศต้องทำตามนโยบายดังกล่าว ดังนั้น FED ก็คล้าย ๆ กับธนาคารแห่งประเทศไทยนั่นเอง
ทุก ๆ 2 เดือนโดยประมาณคณะกรรมการของ FED จะมีการประชุมใหญ่ที่เรียกว่า FOMC Meeting ที่นอกจากจะเป็นการหารือและวิเคราะห์สถานการณ์ของเศรษฐกิจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ตลาดจับตาจากการประชุมนี้ก็คือ “การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายเปรียบเสมือนเครื่องมือสำหรับควบคุมอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งดอกเบี้ยในที่นี้หมายถึงทั้งดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ยกตัวอย่าง ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป FED ก็จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนอยากนำเงินมาฝากไว้กับธนาคารเพราะได้ดอกเบี้ย
เงินฝากมากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการก็จะไม่อยากกู้เงินมาใช้เพราะต้องเสียดอกเบี้ยมากขึ้น จึงเป็นการนำเม็ดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้มีปริมาณเงินมากเกินไปจนเกิดเป็นเงินเฟ้อ
ในทางกลับกัน หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย FED ก็จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้คนนำเงินออกจากธนาคารมาใช้จ่ายมากขึ้น เพราะฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ยไม่คุ้ม ขณะที่ผู้ประกอบการก็อยากกู้เงินมาทำธุรกิจมากขึ้น เพราะเสียดอกเบี้ยเงินกู้น้อยลง ดังนั้นจะสรุปได้ว่า ข่าวนี้จะมีเนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน การปรับลดดอกเบี้ย หรือภาวะเงินเฟ้อนั่นเอง
2. ข่าวประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ECB ย่อมาจาก European Central Bank คือ ธนาคารกลางยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลระบบการเงินและการธนาคารในกลุ่มประเทศยูโรโซน แม้แต่ละประเทศอาจมีธนาคารกลางของตัวเอง แต่โครงสร้างของระบบการเงินยุโรป จะมี ECB เป็นธนาคารกลางที่กำกับดูแลภาพรวมหรืออยู่ด้านบนสุด ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ECB ที่พบบ่อย คือ ECB เป็นองค์กรที่ “พิมพ์ธนบัตรยูโร” ทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การพิมพ์ธนบัตรยูโรเป็นงานของธนาคารกลางของแต่ละประเทศ เช่น Banque de France ของฝรั่งเศส หรือ Deutsche Bundesbank ของเยอรมนี
ทั้งนี้ ECB จะ “สร้างเงิน” หรือการเพิ่ม Supply เข้าระบบผ่านการให้สินเชื่อแก่สถาบันธนาคารด้วย “การซื้อพันธบัตร” (Bond) หรือซื้อสินทรัพย์จำนอง (Mortgage) ซึ่งจะเป็นการทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด กระบวนการสร้างเงินดังกล่าว อาจเรียกว่า “สร้างสภาพคล่อง” จึงสรุปได้ว่า เป็นองค์กรที่มีอำนาจในการขึ้นลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อต้นทุนในการดำเนินงานธุรกิจต่าง ๆ เนื้อหาข่าวจึงเป็นการแถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน
3. หน่วยงานแห่งธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)
บทบาทหน้าที่สำคัญของ FOMC คือการกำหนดนโยบายทางการเงินโดยให้ความสำคัญกับการดำเนินการผ่านตลาดการเงิน ซึ่งเป็นผู้กำหนดและรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยตรง รวมถึงการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ FOMC ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการบริหารจัดการเป้าหมายของอัตราการว่างงานและเป้าหมายเงินเฟ้อ จึงทำให้การตัดสินใจในการดำเนินนโยบายใดๆ ของ FOMC มีผลกระทบอย่างมากต่อราคาสินทรัพย์และสภาพคล่องในตลาด อาทิเช่น การปรับตัวขึ้นลงของอัตราผลตอบแทนและราคาตราสารหนี้ การปรับตัวของตลาดหุ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เนื้อหาของข่าวจึงเป็นการอภิปรายถึงภาพรวมเศรษฐกิจ และแสดงถึงผลลัพธ์การลงคะแนนเสียงในอนาคต
4. ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
GDP ย่อมาจากคำว่า Gross Domestic Product คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ คำนวณมาจากมูลค่าสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศ ณ ช่วงเวลานั้น หรือพูดง่าย ๆ ว่า GDP เป็นมูลค่าเศรษฐกิจทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศ ถ้าตัวเลข GDP ของไทยสูงขึ้น ก็แปลได้ว่ามีรายได้เกิดขึ้นในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งอาจจะมาจากการจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ภาครัฐมีการลงทุนโครงการต่าง ๆ รวมถึงมีนักท่องเที่ยวมาใช้เงินในประเทศเรามากขึ้น เป็นต้น เนื้อหาของข่าวจึงเป็นการพูดถึงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งสำคัญต่อทิศทางการลงทุน
5. ข่าวการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP)
ข่าว Non-Farm ย่อมาจาก Non-Farm Employment Change เป็นข่าวที่ออกโดยกรมสถิติแรงงานของสหรัฐ มีเนื้อหาเกี่ยวกับจำนวนลูกจ้างในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร ความดีงามของข่าว Non-Farm คือมันสามารถสร้างเป็นกลยุทธ์ ทำกำไรในการเทรด forex ได้ โอกาสในการทำกำไรวันหนึ่ง 100-2000% เลยทีเดียว และจะประกาศในทุกวันศุกร์ของแต่ละเดือน
6. ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Consumer Price Index) เป็นเครื่องมือทางสถิติที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกของสินค้าและบริการในปริมาณที่เท่ากันใน
ช่วงระยะเวลาหนึ่งเทียบกับราคาสินค้าอย่างเดียวกันในช่วงเวลาตั้นต้น เรียกว่า ปีฐาน (Base Year) สำหรับใช้วัดค่าครองชีพ และภาวะเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่งเป็นข้อมูลดัชนีเป็นข้อมูลชี้วัดที่สำคัญที่บ่งบอกว่าประเทศมีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด เนื้อหาสาระของข่าวจึงเกี่ยวกับเรื่องของสถิติที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ
7. ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
ดัชนี PMI ย่อมาจาก Purchasing Manager Index มีชื่อในภาษาไทยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เป็นดัชนีที่ นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยตัวเลขดัชนี PMI เป็นตัวเลขที่เกิดจากการสำรวจผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งผู้จัดทำ ทำการสำรวจทั้งในระดับโลก กลุ่มประเทศ และรายประเทศกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาที่สำคัญของโลกในทุกทวีป เนื้อหาของข่าวจึงเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงการขยายตัวหรือหดตัว ของการผลิตและบริการในปัจจุบันกับอนาคต
8. อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate)
อัตราการว่างงาน หมายถึง สัดส่วนประชากรในวัยทำงานที่ไม่มีงานทำ หารด้วย ประชากรในวัยทำงานทั้งหมดของประเทศนั้นๆ ข่าวจึงจะตัวเลขแสดงอัตราร้อยละของผู้ว่างงาน ในระบบเศรษฐกิจเทียบกับกำลังแรงงานรวม
นี่เป็น 8 เนื้อหาข่าวสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกท่านควรทราบ เพราะการติดตามข่าวอยู่เสมอนั้นจะส่งผลดีต่อเทรดเดอร์ และทำให้สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้มาก ทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารและบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมของ DXACADEMY ได้ที่ www.dxacademyforex.com
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จากทีมงาน DX Academy

ก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดเหยี่ยวอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! ที่สำคัญอย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้

หมดตัว! นักเทรดไทยเทรด 6 ปี สูญเงินผ่อนบ้าน-รถ บทเรียนราคาแพงที่ต้องอ่าน
เรื่องราวของคุณปลื้ม นักธุรกิจและเทรดเดอร์จากเชียงใหม่ เป็นบทเรียนสำคัญว่าการไล่ตามกำไรเร็วอาจทำให้สูญเสียมหาศาล เขาเริ่มจากธุรกิจส่วนตัวและการเทรดตาม Signal จนเงินเก็บแทบหมดช่วงโควิด แต่หลังกลับมาเรียนรู้เทรดอย่างเป็นระบบ ศึกษา Price Action และสร้างเทคนิคของตัวเอง เขาสามารถปั้นทุน 100 ดอลลาร์เป็น 8,000 ดอลลาร์ได้ แม้ยังไม่สามารถถอนกำไรทุกวัน แต่ได้บทเรียนสำคัญ: อย่าเทรดตามคนอื่น รู้จักความเสี่ยง เรียนรู้เทคนิคของตัวเอง และอดทนต่อความสูญเสีย

จากทองคำสู่น้ำมัน! รู้จัก Commodity Market ตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนค่าเงินทั่วโลก
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Market) เป็นเวทีซื้อขายสินค้ามาตรฐาน เช่น น้ำมัน ทองคำ และสินค้าเกษตร ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าเงินในตลาด Forex ราคาทองคำ น้ำมัน หรือสินค้าอื่น ๆ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจโลกและส่งแรงสั่นสะเทือนมายังค่าเงิน นักเทรดที่เข้าใจ Commodity Market จะสามารถจับสัญญาณเศรษฐกิจ วิเคราะห์คู่เงิน เช่น XAU/USD หรือ USD/CAD ได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มโอกาสทำกำไรจากตลาด Forex โดยไม่พึ่งพากราฟเพียงอย่างเดียว

Divergence ไม่ใช่แค่สัญญาณกลับตัว มันคือกระจกสะท้อนจิตใจนักเทรด!
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Divergence Forex ในฐานะสัญญาณที่สะท้อนทั้งการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาและจิตวิทยาตลาด Divergence เกิดเมื่อทิศทางของราคาไม่สอดคล้องกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI หรือ MACD ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของเทรนด์ การเข้าใจและใช้ Divergence ควบคู่กับแนวรับ–แนวต้านและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และเทรดอย่างมีสติในตลาดที่ผันผวน
WikiFX โบรกเกอร์
EC Markets
AVATRADE
STARTRADER
FXTM
FOREX.com
VT Markets
EC Markets
AVATRADE
STARTRADER
FXTM
FOREX.com
VT Markets
WikiFX โบรกเกอร์
EC Markets
AVATRADE
STARTRADER
FXTM
FOREX.com
VT Markets
EC Markets
AVATRADE
STARTRADER
FXTM
FOREX.com
VT Markets
