简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ตลาดการเงินญี่ปุ่นปั่นป่วน ! หลัง BOJ ประกาศปรับนโยบาย Yield Curve Control
บทคัดย่อ:ตลาดการเงินญี่ปุ่นปั่นป่วน ! หลัง BOJ ประกาศปรับนโยบาย Yield Curve Control

ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของญี่ปุ่น การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เงินเยนญี่ปุ่น พุ่งขึ้นมากกว่า 2% เป็น 133.62 ต่อดอลลาร์ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าในที่สุด BOJ อาจเข้มงวดกับนโยบายเมื่อเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูง
ธนาคารกลางกล่าวว่าจะเพิ่มช่วงความผันผวนของผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (JGB) เป็นระหว่างติดลบ 0.5% ถึง 0.5% จากช่วงติดลบ 0.25% เป็น 0.25%
การตัดสินใจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในประเทศทำให้ BOJ อาจทบทวนท่าทีต่อแรงกดดันด้านราคา รายงานที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ระบุว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาการปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของ BOJ เนื่องจาก อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภค พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนพฤศจิกายน
ถึงกระนั้น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษของธนาคารดูเหมือนจะอยู่ห่างไกล ธนาคารยังคงเป้าหมายที่ 2% สำหรับอัตราเงินเฟ้อประจำปีในวันอังคาร แม้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค จะมีแนวโน้มที่อัตรารายปีที่ 3.7% ในเดือนตุลาคม
BoJ คงไว้ซึ่ง อัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น ที่ระดับติดลบ 0.1% ซึ่งคงไว้ที่ระดับต่ำมากมาเกือบทศวรรษ และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ที่ 0%
ธนาคารกลางยังให้คำมั่นว่าจะคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ซึ่งรวมถึงการซื้อตราสารหนี้และกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน
การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น หดตัวอย่างไม่คาดคิดในไตรมาสที่สาม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงส่งผลกระทบต่อการบริโภคในท้องถิ่นอย่างมาก ในขณะที่อุปสงค์ในต่างประเทศที่ลดลงก็ส่งผลต่อการส่งออกเช่นกัน
ประเทศกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการลดลงอย่างรวดเร็วของเงินเยนในปีนี้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและของสหรัฐฯ ความผันผวนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนการนำเข้าพลังงานที่สำคัญของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
แต่การเก็งกำไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นโดย BOJ ช่วยให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในเดือนตุลาคม อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจสร้างแรงกดดันให้ BOJ เข้มงวดการเงินมากขึ้นในท้ายที่สุด
ที่มา : Investing

คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
HFM
GTCFX
TMGM
Vantage
ATFX
IC Markets Global
HFM
GTCFX
TMGM
Vantage
ATFX
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
HFM
GTCFX
TMGM
Vantage
ATFX
IC Markets Global
HFM
GTCFX
TMGM
Vantage
ATFX
