简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
BlockFi ยื่นล้มละลาย ! หลังการล่มสลายของ FTX
บทคัดย่อ:BlockFi ยื่นล้มละลาย ! หลังการล่มสลายของ FTX

การล้มละลายของ FTX ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโทในวงกว้าง ล่าสุดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 BlockFi แพลตฟอร์มให้กู้ยืมคริปโทยื่นล้มละลาย หลังจากได้รับผลกระทบจาก FTX โดยบริษัทยื่นเรื่องต่อศาลแขวงในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯ ตามมาตรา 11 เพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย
กรณีมาตราที่ 11 เหล่านี้จะช่วยให้ BlockFi สามารถสร้างเสถียรภาพให้กับธุรกิจและมอบโอกาสให้ BlockFi บรรลุผลตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรที่เพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงลูกค้าผู้มีอุปการะคุณของเรา

BlockFi เปิดเผยว่า บริษัทมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย รวมทั้งมีหนี้สินและทรัพย์สินราว 1 พันล้านดอลลาร์ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทที่เปิดเผยมียอดเงินเกือบ 28 ล้านดอลลาร์ โดยในการยื่นฟ้องบริษัทได้แสดงรายการเงินกู้ที่โดดเด่นจำนวน 275 ล้านดอลลาร์
ซึ่งก่อนหน้านี้ BlockFi ประกาศระงับการถอนเงินของลูกค้า โดยยอมรับว่าธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล้มละลายของ FTX ซึ่งได้ยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทมีเจ้าหนี้มากกว่า 1,000,000 ราย ขณะที่บริษัทในเครือราว 130 แห่งเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย
FTX ได้กลายเป็นบริษัทที่ล้มละลายภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน จากเดิมที่มีสินทรัพย์มากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตสภาพคล่องจากการที่ลูกค้าแห่ถอนเงิน ขณะที่ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานี้ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงซื้อกิจการ
ที่มา : CNBC


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
