简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาทองคําวานนี้ปิดทะยานขึ้น หลังเผยดัชนี CPI
บทคัดย่อ:ราคาทองคําวานนี้ปิดทะยานขึ้น หลังเผยดัชนี CPI

สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดทะยานขึ้น 48.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําพุ่งขึ้นในทันทีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 7.7% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.99% และชะลอตัวจากระดับ 8.2% ในเดือน ก.ย.
ส่วนดัชนี CP พื้นฐานปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5% และชะลอตัวจากระดับ 6.63% ในเดือน ก.ย. สะท้อนชัดเจนว่าเงินเฟ้อในสหรัฐอาจผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. เห็นได้จาก FedWatch Tool ที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงถึง 80.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 50 bps ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3.818% และเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม
และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีของสหรัฐซึ่งสะท้อนการ คาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ร่วงลงเช่นกันสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 4.29% และเป็นการร่วงลงรายวันที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 จนสร้างแรงหนุนให้แก่ทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม จนเป็นที่มาที่ทําให้ทองคําทะยานขึ้นผ่านระดับสูงสุดของเดือน ก.ย.และ ต.ค.จนกระตุ้นแรงซื้อทางเทคนิคเพิ่ม ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดอยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ 1,757.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ต้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +3.19 สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากม.มิชิแกน แต่ปริมาณการซื้อขายในตลาดสหรัฐอาจบางกว่าปกติ เพราะภาคธนาคาร รวมถึงตลาดบอนด์จะปิดทําการเนื่องในวันทหารผ่านศึก (Veterans Day) แต่ตลาดทุน ตลาดเงิน ตลาดทองสหรัฐเปิดตามปกติ
หลังจากราคาทะยายขึ้น แม้จะมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามากดดัน แต่หากแรงขายไม่มากราคาจะพยายามดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซน 1,757-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง อาจจะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาอีกครั้ง สู่เพื่อสะสมแรงซื้อใน โซน 1,735-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,735-1,717
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,757-1,765
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,717
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
AVATRADE
GTCFX
IC Markets Global
EC Markets
Ultima
FXCM
AVATRADE
GTCFX
IC Markets Global
EC Markets
Ultima
FXCM
WikiFX โบรกเกอร์
AVATRADE
GTCFX
IC Markets Global
EC Markets
Ultima
FXCM
AVATRADE
GTCFX
IC Markets Global
EC Markets
Ultima
FXCM
