简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ทองคำกลับมาปิดบวก หลังดอลลาร์อ่อนค่า
บทคัดย่อ:ทองคำกลับมาปิดบวก หลังดอลลาร์อ่อนค่า

สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากคําเงินปอนด์ที่พุ่งขึ้น 1.8% ในวันพฤหัสบดี โดยปรับตัวขึ้นภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศมาตรการสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน ด้วยการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวโดยไม่จํากัด จํานวน ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.82% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังเงินเฟ้อของเยอรมนีพุ่งขึ้น 10.99% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 10.05% บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ไว้ที่ 9.6% ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป( ECS) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 75 bps ในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป สถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นจาก ระดับต่ําสุดในระหว่างวัน และปัดตลาดในแดนบวกได้ แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาทิ นางสบเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดศสีฟ แลนด์ ที่ระบุว่าเธอยังไม่เห็นปัญหาในตลาดการเงินของสหรัฐที่จะเปลี่ยนแผนการของเฟดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ พร้อมระบุว่าเธอยังคงมองว่าเงินเฟ้อเป็นปัญหาสําคัญและเฟด จําเป็นต้องเร่งดําเนินการต่อไปเพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่สูงกว่า 49% สอดคล้องกับนางแมรี่ เดลี ประธานเฟดชานฟรานซิสโก ที่เชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.5-55% และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ จนถึงสิ้นปี 2023 เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่เธออาจสนับสนุนให้เฟดดําเนินการมากกว่านี้หากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงตามคาด สถานการณ์ดังกล่าวกดดันการปรับตัวขึ้นของราคาทองคํา ด้านกองทุน SPDR ถืองครองทองคําเพิ่มขึ้น +0.29 คัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี Core PCE, การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนี PMI เขตชิคาโกและคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากม.มิชิแกน
หลังจากราคาทองค าดีดตัวขึ้นในระยะสั้นในช่วงที่ก่อนหน้านี้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาแสดงให้ เห็นถึงการแกว่งตัวในทิศทางที่อ่อนตัวลง เบื้องต้น หากราคาทองค าไม่สามารถยืน 1,643 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้(ระดับสูงของวันก่อนหน้า) โดยนักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาที่อาจ เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองค าให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,620-1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนําเปิดสถานะขาย $1,669-1,688
จุดทำกําไร ซื้อคืนเพื่อทำกําไร $1,642-1,621
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสกานะขายหากผ่าน $1,688
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
octa
JustMarkets
FXTM
ATFX
Ultima
D prime
octa
JustMarkets
FXTM
ATFX
Ultima
D prime
WikiFX โบรกเกอร์
octa
JustMarkets
FXTM
ATFX
Ultima
D prime
octa
JustMarkets
FXTM
ATFX
Ultima
D prime
