简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี
บทคัดย่อ:สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวก 10.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําแกว่งตัวในกรอบ 1,679.30-1,659.50

สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวก 10.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําแกว่งตัวในกรอบ 1,679.30-1,659.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งสู่ระดับ 3.518% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2011 ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ให้สูงขึ้นและยาวนานขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองค้าร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,659.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําฟื้นตัวหลังจากนั้นส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนหลัง สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAN-HB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 3 จุด สู่ระดับ 46 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 และต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ที่ระดับ 47 ซึ่งช่วยชะลอการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 11 ปีจากแรงซื้อคืนพันธบัตร เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ปัจจัยที่กล่าวมาช่วยหนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้น ปิดตลาดบริเวณ 1,675.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้าน กองทุน SPDR ถือครองทองคํามิติลง -2.90 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ
ราคาทองคำพยายามกลับขึ้นไปทดสอบโซน 1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถ ยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้แสดงถึงแรงซื้อในระดับจำกัดราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลง ทดสอบแนวรับ 1,659-1,653 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถยืนได้ จะเกิดแรงขาย ออกมา โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนําเปิดสกานะขาย $1,684
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,653-1,659
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,703
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
HFM
FOREX.com
FXCM
EC Markets
TMGM
Vantage
HFM
FOREX.com
FXCM
EC Markets
TMGM
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
HFM
FOREX.com
FXCM
EC Markets
TMGM
Vantage
HFM
FOREX.com
FXCM
EC Markets
TMGM
